โรคที่เกี่ยวกับกระดูก
โดยเฉพาะโรคที่เป็นกันมากในวัยที่ล่วงเลยเข้าอายุ 40
ปีของผู้หญิงนั้นก็คือโรคภาวะกระดูกพรุน ซึ่งโรคนี้สำหรับผู้หญิงแล้ว
สาเหตุหลักก็คือสภาวะที่ร่างกายเกิดการพร่องฮอร์โมน
และเรื่องที่เป็นประเด็นที่น่าตกใจในมุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พบก็คือ
โรคนี้มักเกิดกับคนในประเทศที่มีสถิติการบริโภคนมสูง (และในความคิดหนึ่ง
อาจหมายถึงได้รับแคลเซียมสูง) ในชีวิตประจำวันอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา, เนเธอแลนด์
และเดนมาร์ก
ซึ่งทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกิดการสงสัยในเรื่องทฤษฎีที่มีมาช้านานในเรื่องของการบริโภคนมเพื่อป้องกันภาวะกระดูกพรุน
ในความเป็นจริงนั้น เรารู้กันหรือไม่
ว่าในเมล็ดงาดำนั้น มีปริมาณแคลเซียมมากกว่านมเมื่อเทียบทั้งสองอย่างในปริมาณเท่ากัน
มากไปกว่านั้น ในงาดำนั้น
ก็ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุอีกมากมายที่ช่วยในการเสริมสร้างกระดูก เช่น แมกนีเซียม, สังกะสี
และฟอสฟอรัส
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นสารที่สำคัญที่นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบในงาดำและให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คือ
“เซซามิน” (sesamin) ซึ่งมีอยู่ใน
“น้ำมันงาดำสกัดเย็น” ที่เป็นตัวช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกในร่างกายเรา
Sesamin
การศึกษาค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับงาดำค้นพบว่า
สารที่มีประโยชน์ต่างๆที่มีอยู่ในเมล็ดงาดำนั้นสามารถช่วยผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนได้
เพราะแร่ธาตุต่างๆที่พบในงาดำนี้
เป็นสารที่ร่างกายเราสามารถนำไปใช้ในการซ่อมแซมกระดูกที่สึกหรอและยังช่วยซ่อมแซมมวลกระดูกที่หายไปด้วย
นอกจากนั้นน้ำมันในงาดำนั้นยังมีส่วนช่วยสร้างสมดุลของต่อมฮอร์โมน
ทำให้ระบบการสั่งการผลิตและหยุดยั้งของต่อมฮอร์โมนเป็นไปอย่างเหมาะสม เพราะหากเกิดฮอร์โมนพร่องจากการที่ต่อมฮอร์โมนทำงานผิดปกติ
ก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคภาวะกระดูกพรุนได้ และมากไปกว่านี้ สารเซซามินและโอเมก้า 6, 3, 9
ที่มีอยู่ในงาดำยังช่วยลดการอักเสบของร่างกายเราโดยรวม
ดังนั้นจึงช่วยลดปัญหาเรื่องการเสื่อมของกระดูกได้อีกด้วย
งาดำโดยปกติแล้ว ในร่างกายของเรา
หากมีการอักเสบเกิดขึ้นนั้นจะทำให้ในร่างกายเราอยู่ในสภาวะที่เป็นกรด
ทำให้ระบบสั่งการให้ละลายแคลเซียมจากกระดูกมาเพื่อแบ่งปันให้ร่างกายเกิดความเป็นด่างมากขึ้นเพื่อสร้างสมดุลและป้องกันการทำลายเซลล์
ในงาดำและน้ำมันงาดำนั้นมีความเป็นด่าง ดังนั้น
เมื่อเราบริโภคเข้าไปก็จะช่วยยับยั้งและลดความเป็นกรดในร่างกายของเรา
ตามตำราแพทย์จีนนั้น
ส่วนของเปลือกสีดำที่หุ้มเมล็ดงาสีขาวนวลไว้นั้นมีสรรพคุณอย่างดีในการบำรุงไต
เพราะหากว่าไตของเราทำงานปกติ
ก็จะส่งผลให้กระบวนการสร้างกระดูกดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งก็จะไม่ทำให้เกิดสภาวะโรคกระดูกพรุน
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทราบดีว่า ไตของคนเรานั้น จะเริ่มเสื่อมเมื่ออายุย่างเข้า 32 ปี
และหากว่ามีปัจจัยอื่นๆเข้ามาพ่วงอีก เช่น ความเครียด, ทำงานหนัก, ผ่านการมีบุตร, สูบบุหรี่, กินเหล้า
ฯลฯ ก็จะเป็นตัวเร่งที่ทำให้ไตของเราเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น
เราจึงควรให้ความสำคัญในการดูแลบำรุงรักษาไตของเราให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
ที่มา: บทความคัดย่อจากหนังสือ ไม่แก่ ไม่เจ็บ
ไม่ป่วย สวยด้วยน้ำมันงาดำ โดย ดร.พล ภูภาวัฒนากิจ
แพทย์ศาสตร์ธรรมชาติบำบัดและแพทย์ศาสตร์ตะวันออก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น