ประโยชน์ของข้าวสีนิล





        ข้าวสีนิล เกษตรกรปลูกกันน้อย เพราะไม่ได้เป็นข้าวเศรษฐกิจ ดูแลยาก เลยทำให้มีราคาแพงกว่าข้าวประเภทอื่นเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นข้าวกล้องงอกสีนิลจะแพงขึ้นอีก 2-3 เท่าตัว เคล็ดลับการกินข้าว ไม่ว่าคุณจะกินข้าวแบบไหนก็ตาม ถ้าเลือกซื้อข้าวที่เพิ่งเกี่ยวไปฤดูเกี่ยวล่าสุด และเพิ่งสีมาไม่นาน จะได้กินข้าวที่นุ่ม อร่อยกว่าข้าวค้างปี และสีทิ้งไว้นาน

                                   คุณประโยชน์คุณค่าทางอาหารของข้าวกล้องหอมนิล 

                                 1). วิตามิน B1, B2, Bรวม และวิตามิน E

2). ธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง แคลเซียม โพแทสเซียม
(โดยเฉพาะธาตุเหล็กสูงกว่าข้าวกล้องทั่วไป 30 เท่า)
3). โปรตีน 12.5% (มากกว่าข้าวกล้องทั่วไป)
4). คาร์โบไฮเดรต (ต่ำกว่าข้าวกล้องทั่วไป จึงกินแล้วไม่อ้วน)
5). สารต้านอนุมูลอิสระ (ANTI-OXIDANT) สูงกว่าข้าวกล้องทั่วไป 7 เท่า
6). เส้นใยอาหาร (FIBER)

ประโยชน์ที่ได้รับ:
1. วิตามิน B1 ป้องกันเหน็บชา และช่วยการทำงานของระบบประสาท
2. วิตามิน B2 ป้องกันโรคปากนกกระจอก และ ช่วยเผาผลาญอาหาร
3. วิตามินบีรวม ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการอ่อนเพลีย แขน ขาไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อโรคผิวหนังบางชนิดบำรุงสมอง ทำให้เจริญอาหาร
4. ไนอาซีน ช่วยการทำงานของระบบประสาท และระบบผิวหนัง
5. แร่ธาตุเหล็ก แม็กนีเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว
6. เส้นใย ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก ป้องกันมะเร็งลำไส้ ซับไขมัน ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลป้องกันโรคไขมัน สะสมในเส้นเลือด
7. คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานต่อร่างกาย
8. โปรตีน เสริมสร้าง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

นอกจากนี้ ข้าวพันธุ์นี้ยังมีสารแอนโทไซยานิน ที่ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ นุ่มสลวยไม่แตกปลาย ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง กระตุ้นให้ผมมีสีเข้มขึ้น ชะลอกการเกิดผมหงอกก่อนวัย และธาตุเหล็กที่มีอยู่ในข้าวหอมนิลนี้ ทานเข้าไปในร่างกายสามารถดูดซึมได้เลย ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการบำรุงโลหิตได้ทันที
มารู้จักข่าวสีนิล กันดีกว่า

 “ข้าวสีนิลข้าวเมล็ดสีม่วงดำสวยแปลกตา รสสัมผัสหนึบหนับ ใครจะรู้หรือไม่ว่าเป็นอาหารอันทรงคุณค่า มากด้วยคุณประโยชน์ แถมยังแปรรูปได้หลากหลาย
 เรามารู้จักเจ้าขาวสีนิลนี้ให้มากกว่าเดิมกันค่ะ
ข้าวสีนิลลักษณะเด่น คือ มีสีม่วงเข้มข้าวสีม่วงเข้มจนเกือบดำ ซึ่งเป็นสีของสารรงควัตถุ
ที่อุดมไปด้วย แอนโทไซนานินและ โปรแอนโทไซยานินที่อยู่ในส่วนของปลายจมูกข้าว ทำงานร่วมกันต้านอนุมูลอิสระ โดยปกติ แอนโทไซนานินและ โปรแอนโทไซยานิน
จะพบมากในพืชหรือผลไม้ที่มีสีม่วงยิ่งสีเข้มมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีขึ้นตามลำดับ แต่จากวิจัยพบว่า ในข้าวสีนิล มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าผลไม้ในตระกูลเบอรี่ถึง 3 เท่า
แอนโทไซยานิน ทำงานได้ดีกว่า วิตามิน E ถึง 5 เท่า ช่วยยับยั้งริ้วรอยอันเกิดก่อนวัย
 สารสกัดแอนโทไซยานินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ รายงานการวิจัยในประเทศญี่ปุ่นพบว่าในสัตว์ทดลอง แอนโทไซยานินสามารถกระตุ้นให้ขนงอกกลับคืนมาเร็วกว่าตัวเปรียบเทียบที่ไม่ได้ใช้สารถึงถึงเท่าตัวเลยทีเดียว การศึกษาในหลอดทดลองยืนยันว่า สารแอนโทไซยานิน กระตุ้นให้เซลล์รากผมสร้างผมมากขึ้นถึง 3 เท่า นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้ผมมีสุขภาพดีแล้ว ยังช่วยให้ผิวหนังดูอ่อนกว่าวัย
และลดความเสียหายของผิวหนังที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก
แสงอัลตร้าไวโอเลท (แสงแดดและไฟนิออน)
โดยในการทดลองเดียวกันพบว่า สารแอนโทไซยานินเมื่อใช้ร่วมกับวิตามินอีจะช่วยให้การทำงานของมันดีขึ้นเพราะ สาร Anthocyanin จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังไม่ให้ปลดปล่อย
อิลาสตินเป็นผลให้ผิวหนังไม่สูญเสียความยืดหยุ่น ดังนั้น เราจะคงความหนุ่ม-สาวอ่อนกว่าวัย ดูดี เอาไว้ได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้นนั่นเอง
รู้อย่างนี้แล้วคงต้องรีบไปลองหามารับประทานดูแล้ว จะได้หน้าใส ผิวเด้งก่อนใคร
แต่ถ้าไม่รู้จะไปหาทานจากไหน ก็สามารถหาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของงาดำและข้าวสีนิล
ก็อร่อยและคุณค่าทางสารอาหารไม่ต่างกันเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก ผศ.ดร.พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์, ศาสตราจารย์เกียรติคุณ, ดร.นิธิยา รัตนาปนนท์, sininrice.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น